อุกกาบาต
วัตถุจำพวกดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเล็กกว่า 1 กิโลเมตร เรียกว่า "สะเก็ดดาว" (Meteoroids) เมื่อสะเก็ดดาวตกลงสู่โลกและเสียดสีกับบรรยากาศจนเกิดความร้อนและลุกติดไฟ มองเห็นเป็นทางยาวในเวลากลางคืนเรียกว่า "ดาวตก" หรือ "ผีพุ่งใต้" (Meteor หรือ Shooting star) ดาวตกที่มองเห็นส่วนมากมีขนาดประมาณเม็ดทราย แต่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงประมาณ 40 - 70 กิโลเมตร/วินาที จึงเสียดสีกับอากาศจนร้อนมากจนเผาไหม้หมดก่อนที่จะตกถึงพื้นผิวโลก อย่างไรก็ตามถ้าสะเก็ดดาวขนาดใหญ่ตกลงมาก็จะเผาไหม้ไม่หมด เหลือชิ้นส่วนตกค้างบนพื้นผิวโลกซึ่งเรียกว่า "อุกกาบาต" (Meteorite) และหลุมที่เกิดจากการพุ่งชนเรียกว่า "หลุมอุกกาบาต" (Meteor crator)
ภาพที่ 1 ประเภทของอุกกาบาต
การแบ่งประเภทของอุกกาบาตใช้วิธีเดียวกับการแบ่งประเภทดาวเคราะห์น้อย เพราะอุกกาบาตก็คือชิ้นส่วนของดาวเคราะห์น้อย ซึ่งแบ่งตามองค์ประกอบทางเคมีได้ดังนี้
C-type (Carbonaceous chondrite) อุกกาบาตคาร์บอนมีสีคล้ำเนื่องจากมีองค์ประกอบเป็นคาร์บอนจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า อุกกาบาตประเภทนี้เป็นพาหะนำเชื้อชีวิตมาสู่โลก
S-type (Stone) อุกกาบาตหิน มีองค์ประกอบเป็นซิลิกา
M-type (Metal) อุกกาบาตโลหะ มีองค์ประกอบเป็นเหล็กและนิเกิล
ภาพที่ 2 อุกกาบาตจากดาวอังคารบนพื้นผิวโลก
อุกกาบาตส่วนใหญ่มีกำเนิดจากสะเก็ดของดาวเคราะห์น้อย อย่างไรก็ตามยังมีอุกกาบาตบนพื้นโลกที่มีกำเนิดจากดวงจันทร์และดาวอังคาร ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากแรงระเบิดซึ่งเกิดจากดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่พุ่งชนดวงจันทร์หรือดาวอังคาร แรงระเบิดทำให้สะเก็ดดาวกระเด็นขึ้นสู่อวกาศแล้วล่องลอยไปในอวกาศ เมื่อโลกโคจรผ่านเข้ามา แรงโน้มถ่วงของโลกดึงดูดให้สะเก็ดดาวนั้นตกลงมา และถ้าอุกกาบาตนั้นตกลงบนพื้นผิวสีขาวเช่นแผ่นน้ำแข็ง นักวิทยาศาสตร์ก็จะตามไปเก็บได้ง่าย ดังเช่นภาพที่ 2 เป็นอุกกาบาตจากดาวอังคารที่เก็บได้ที่ขั้วโลกใต้
ภาพที่ 3 ฟอสซิลจุลินทรีย์ในอุกกาบาตจากดาวอังคาร
ในปี พ.ศ.2539 ได้มีการค้นพบอุกกาบาต ALH84001 ซึ่งเป็นสะเก็ดดาวอังคารตกลงบนแผ่นน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติก เมื่อนำมาส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแล้วพบวัตถุรูปร่างเหมือนสิ่งมีชีวิต ดังที่แสดงในภาพที่ 3 นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าเป็นฟอสซิลจุลินทรีย์บนดาวอังคาร แต่นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าเป็นจุลินทรีย์บนโลกของเรา ซึ่งมาอาศัยอยู่ภายหลังจากที่อุกกาบาตอยู่บนพื้นโลกแล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด
ภาพที่ 4 ตัวอย่างอุกกาบาต
คำอธิบายตัวอย่างอุกกาบาตในภาพที่ 4
อุกกาบาตที่พบบนดาวอังคารโดยรถหุ่นยนต์ออปโปตูนิตีโรเวอร์
อุกกาบาตจากดาวอังคาร
หลุมอุกกาบาตบาร์ริงเจอร์ที่มลรัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
อุกกาบาตหินที่พบในทวีปแอนตาร์คติก
อุกาบาตเหล็กที่พบในหลุมบาร์ริงเจอร์
อุกกาบาตจากดวงจันทร์พบในทวีปแอนตาร์กติก
เกร็ดความรู้
4,600 ล้านปีมาแล้ว กลุ่มก๊าซในโซลาร์เนบิวลารวมตัวกันกำเนิดเป็นดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ และวัตถุขนาดเล็กในระบบสุริยะ
65 ล้านปีมาแล้ว อุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลกที่ ชิคซูลูบ (Chicxulub) คาบสมุทรยูคาทาน ประเทศเม็กซิโก ไดโนเสาร์และสิ่งมีชีวิตสปีชีส์อื่นๆ ร้อยละ 75 สูญพันธุ์
50,000 ปีมาแล้ว เกิดหลุมอุกกาบาตบาร์ริงเจอร์ ในทวีปอเมริกาเหนือ
พ.ศ.2441 อุกกาบาตระเบิดกลางอากาศ ทำให้ต้นไม้ในป่าทังกูสก้าในไซบีเรีย ล้มตายเป็นอาณาบริเวณกว้าง
พ.ศ.2539 มีการค้นพบอุกกาบาต ALH84001 ซึ่งเป็นสะเก็ดดาวอังคารตกลงบนแผ่นน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติก ภายในมีฟอสซิลจุลินทรีย์ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร