กำเนิดระบบสุริยะ


ระบบสุริยะเกิดจากกลุ่มฝุ่นก๊าซในอวกาศ เรียกว่า “โซลาร์เนบิวลา” (Solar Nebula) รวมตัวกันเมื่อประมาณ 4,600 ล้านปีมาแล้ว (นักวิทยาศาสตร์คำนวณจากอัตราการเกิดนิวเคลียร์ฟิวชันหลอมไฮโดรเจนเป็นฮีเลียมภายในดวงอาทิตย์) เมื่อสสารมากขึ้นแรงโน้มถ่วงระหว่างมวลสารมากขึ้นตามไปด้วย กลุ่มฝุ่นก๊าซยุบตัวหมุนเป็นรูปจานตามหลักอนุรักษ์โมเมนตัมเชิงมุม ดังภาพที่ 1 แรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้นสร้างแรงกดดันที่ใจกลางจนอุณหภูมิสูงถึง 15 ล้านเคลวิน จุดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน หลอมรวมอะตอมของไฮโดรเจนให้เป็นฮีเลียม ดวงอาทิตย์ถือกำเนิดเป็นดาวฤกษ์

ภาพที่ 1 กำเนิดระบบสุริยะ

หลังจากที่ดวงอาทิตย์เกิดขึ้น  มวลสารรอบๆ ดวงอาทิตย์ (Planetisimal) ยังคงหมุนวนและโคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยโมเมนตัมที่มีอยู่เดิม  มวลสารในวงโคจรแต่ละชั้นรวมตัวกันกำเนิดเป็นดาวเคราะห์  อิทธิพลจากแรงโน้มถ่วงทำให้อนุภาคต่างๆ ใกล้เคียง พุ่งเข้าหาดาวเคราะห์จากทุกทิศทาง  ถ้าวิถีการเคลื่อนที่มีมุมลึกก็จะพุ่งชนรวมตัวกับดาวเคราะห์ ทำให้ดาวเคราะห์ดวงนั้นมีขนาดใหญ่และมีมวลเพิ่มขึ้น แต่วิถีการเคลื่อนที่มีตื้น ก็อาจแฉลบเข้าสู่วงโคจรรอบดาวเคราะห์ และเกิดการรวมตัวกลายเป็นดวงจันทร์บริวาร  ดังจะเห็นว่าดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ เช่น ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์มีดวงจันทร์บริวารหลายดวง  เนื่องจากเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่มีมวลมากจึงมีแรงโน้มถ่วงมาก ต่างกับดาวพุธซึ่งเป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็กมีมวลน้อยมีแรงโน้มถ่วงน้อย จึงไม่มีดวงจันทร์บริวารเลย  ส่วนดาวเคราะห์น้อยและดาวหางมีรูปทรงเหมือนก้อนอุกกาบาต เพราะมีขนาดเล็กมีมวลน้อย แรงโน้มถ่วงเข้าหาศูนย์กลางไม่สามารถเอาชนะแรงยึดเหนี่ยวระหว่าง
โมเลกุล ให้ยุบรวมเป็นทรงกลมได้

หลักฐานที่ยืนยันทฤษฏีกำเนิดระบบสุริยะคือ ถ้ามองจากด้านบนของระบบสุริยะ (Top view) จะสังเกตได้ว่า ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ และดวงจันทร์บริวารเกือบทุกดวง หมุนรอบตัวเองในทิศทวนเข็มนาฬิกา* และโคจรรอบดวงอาทิตย์ในทิศทวนเข็มนาฬิกา** และหากมองจากด้านข้างของระบบสุริยะ (Side view) จะสังเกตได้ว่า ดาวเคราะห์และดวงจันทร์บริวารเกือบทุกดวง มีระนาบวงโคจรใกล้เคียงกับระนาบสุริยวิถี (Ecliptic plane) ***  ทั้งนี้เนื่องจากระบบสุริยะทั้งระบบกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กัน ด้วยการยุบรวมและหมุนตัวของจานฝุ่นในโซลาร์เนบิวลา ตามที่กล่าวมา

หมายเหตุ: