นิยามของดาวเคราะห์


ในภาษาอังกฤษคำว่า ดาวฤกษ์ (Star) และดาวเคราะห์ (Planet) เขียนแตกต่างกันชัดเจน แต่ภาษาไทยเราเรียกวัตถุที่เป็นจุดแสงทุกอย่างบนฟ้าว่า “ดาว” ก็เลยเกิดความสับสน ตำราเก่าๆ มักบอกว่า ดาวฤกษ์เป็นดาวที่มีแสงในตัวเองจึงมีแสงไม่คงที่ ส่วนดาวเคราะห์ไม่มีแสงในตัวเองต้องสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์ ทำให้เรามองเห็นเป็นแสงนวลมีความสว่างคงที่ ในความเป็นจริงสิ่งที่กล่าวมานี้ยอมรับไม่ได้ เนื่องจากมีดาวฤกษ์เพียงบางดวงที่มีความสว่างไม่คงที่ เช่น ดาวแปรแสง แต่ก็ไม่สามารถตรวจวัดได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ตรวจวัดอย่างละเอียด การที่เรามองเห็นแสงดาวกระพริบระยิบระยับ เป็นเพราะบรรยากาศของโลกแปรปรวน ในวันที่อากาศไม่ดีไม่ว่าจะเป็นดาวฤกษ์หรือดาวเคราะห์ย่อมมีแสงกระพริบด้วยกันทั้งนั้น เฉกเช่นเดียวกับการมองดูปลาในกระแสน้ำ ปลาก็จะสั่นไหวไม่ชัด หากเราขึ้นไปดูดาวบนยอดดอยสูงซึ่งมีบรรยากาศบางจะพบว่า ไม่ว่าจะเป็นดาวฤกษ์หรือดาวเคราะห์ต่างก็ส่องแสงนวลไม่กระพริบ เราจึงไม่สามารถจำแนกดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ได้ด้วยวิธีนี้  

นิยามที่แท้จริงของดาวเคราะห์คือการเคลื่อนที่ คำว่า “ดาวเคราะห์” หรือ “Planet” มีรากศัพท์มาจากคำว่า “Wander” ในภาษาละตินซึ่งแปลว่า ผู้สัญจร หรือ นักเดินทาง   ดาวฤกษ์เป็นดาวประจำที่ เนื่องจากเราเห็นเป็นกลุ่มดาวฤกษ์มีรูปร่างคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง (ความเป็นจริงดาวฤกษ์ทั้งหลายเคลื่อนที่ไปตามการหมุนของกาแล็กซี ถ้าหากสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ในช่วงเวลาพันปีกลุ่มดาวมีรูปร่างเปลี่ยนไปเล็กน้อย เนื่องจากดาวฤกษ์อยู่ไกลจากเรามาก) ส่วนดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์ เราจึงเห็นมันเคลื่อนที่เปลี่ยนตำแหน่งไปในแต่ละวัน เช่นเดียวกับดวงจันทร์  ภาพที่ 1 แสดงให้เห็นตำแหน่งของดาวอังคารบนท้องฟ้า เคลื่อนที่เปลี่ยนตำแหน่งไปในแต่ละเดือน เมื่อเทียบกับกลุ่มดาวจักราศีที่อยู่ด้านหลัง