กล้องส่องทางไกลชนิดสองตา
กล้องส่องทางไกลชนิดสองตา (Binocular) มีหลักการเช่นเดียวกับกล้องโทรทรรศน์กล่าวคือ ประกอบด้วยเลนส์ 2 ชุด คือ เลนส์ใกล้วัตถุและเลนส์ใกล้ตา และใส่ปริซึมไว้ภายในระหว่างเลนส์ทั้งสองเพื่อหักเหลำแสงกลับไปกลับมา ทำให้ลำกล้องสั้นและให้ภาพหัวตั้ง ดังไดอะแกรมในภาพที่ 1 กล้องแบบเพอร์โร-ปริซึม (Porro-prism) และภาพที่ 2 กล้องแบบรูฟ-ปริซึม (Roof-prism) ขนาดของกล้องประกอบด้วยตัวเลขสองจำนวน ได้แก่ 8x40, 7x50 หรือ 10x25 เป็นต้น จำนวนแรกเป็นกำลังขยาย จำนวนหลังเป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเลนส์วัตถุมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
ภาพที่ 1 แบบพอร์โร - ปริซึม (Porro-Prism)
ภาพที่ 2 แบบรูฟ - ปริซึม (Roof-Prism)
กล้องส่องทางไกลแบบสองตามีหลายขนาดขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งาน ตัวอย่างเช่น
เดินทางไกลและไต่เขา: ควรเลือกกล้องที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย หรือกันน้ำ ได้แก่ 8x24 หรือ 10x25
ดูนก: ควรเลือกกล้องที่มีกำลังรวมแสงพอสมควร กำลังขยายปานกลาง น้ำหนักไม่มากนัก เพื่อให้ภาพไม่สั่นไหว หรือเมื่อยแขนเมื่อยกนานๆ ขนาดกล้องที่เหมาะสมควรจะเป็น 8x40 หรือ 8x42
ดูดาว: วัตถุท้องฟ้าส่วนใหญ่มีความสว่างไม่มาก ดังนั้นกล้องเลือกใช้ควรมีเลนส์วัตถุขนาด 50 มิลลิเมตรขึ้นไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรวมแสง แต่ถ้ากล้องมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ก็ต้องติดตั้งไว้บนขาตั้งกล้อง
ในการใช้กล้องส่องทางไกลจะสังเกตได้ว่า หากถือกล้องไว้ห่างจากดวงตามากเกินไป เราจะมองไม่เห็นภาพทั้งหมดในกล้อง ขอบของภาพจะเบลอจนกว่าเราจะขยับกล้องให้ใกล้กับดวงตามากขึ้น จึงจะเห็นภาพชัดเจนทั้งหมดจนถึงขอบดังแสดงในภาพที่ 3 และ 4 ระยะห่างระหว่างเลนส์ตากับดวงตาซึ่งทำให้มองเห็นภาพทั้งหมดในกล้องได้ชัดเจนจนถึงขอบเรียกว่า "อายรีลีฟ" (Eye relief) กล้องสองตาทั่วไปมีอายรีลีฟประมาณ 8 - 14 มิลลิเมตร ซึ่งสั้นเกินไปสำหรับผู้สวมใส่แว่นสายตา ดังนั้นหากท่านมีความประสงค์จะใช้กล้องสองตาโดยไม่ต้องถอดแว่นออกเลย ควรเลือกกล้องที่มีอายรีลีฟยาวกว่า 17 มิลลิเมตรขึ้นไป อย่างไรก็ตามอายรีลีฟแปรผกผันกับกำลังขยาย กล้องกำลังขยายสูงมีอายรีลีฟสั้น กล้องกำลังขยายต่ำมีอายรีลีฟยาวกว่า ดังนั้นการสร้างกล้องกำลังขยายสูงที่มีอายรีลีฟยาว ต้องออกแบบเป็นพิเศษและมีราคาแพงมาก
ภาพที่ 3 อายรีลีฟสั้น
ภาพที่ 4 อายรีลีฟยาว